สาวน้อย วิ่งเริงร่า อยู่ในห้องจัดงาน
บ้างมุดไปตามใต้โต๊ะต่างๆ
สนทนากับคุณป้าข้างๆ
หรือไม่ก็ถ่ายรูป
วันนั้น สาวน้อยสวมชุดสีชมพู ทั้งตัว
ทั้งแก้มและริมผีปากก็สีชมพู ดูสดใส
ฉันชวนเธอเล่น ... เล่นหู เล่นตา
เล่นกล้อง เล่นสี...วาดละเลงลงกระดาษ
เธอช่างกระหายใคร่รู้ และเรียนรู้ได้รวดเร็วน่าอัศจรรย์นัก
ในขณะที่เธอเอ่ยถาม มือของเธอก็ยื่นออกไปคว้าสิ่งต่างๆ
เธอทำความรู้จักกับสิ่งที่เธอใคร่รู้แทบจะในบัดเดี๋ยวที่อยากรู้นั้น
ในกระเป๋านี่มีอะไร? แป้งมีไว้ทำอะไร? ลิปกลอสมีไว้ทำไม?
กล้องของฉันใช้อย่างไร? เธออยากเก็บภาพป้าของเธอขณะปฏิบัติงาน
เธอมากับคุณป้า ที่มาทำหน้าที่ล่ามในกิจกรรมหนึ่งของงาน
แต่แบตเตอรี่ในกล้องของเธอหมดแล้ว เธอขอยืมกล้องฉันไป
ฉันปล่อยเธอไป กับกล้องราคาหลายหมื่น ในมือเด็กไม่กี่ขวบได้อย่างไร
คนอื่นอาจคิดว่าฉันไม่กลัวหรือ...ไม่หรอก
ฉันกลัว แต่ความกลัวไม่อาจชนะความไว้ใจ
แต่ฉันไว้ใจอะไร...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
มันมีชื่อว่าอะไรกัน?...ฉันบอกได้แค่ว่าฉันไว้ใจ
วันนี้ ฉันพบเธออีกครั้ง แถวๆสุขุมวิท
ช่างบังเอิญยิ่งนัก... หากแม้ความบังเอิญจะมีจริงในจักรวาลนี้
เธอสวมชุดสีฟ้า ... แต่หน้าตาและพลังภายในยังคงสดใส
ผลิบานดังดอกไม้สีชมพูน้อยๆน่ารัก
อีกหลายคนที่ฉันได้พบที่สุขุมวิทในวันนี้ รวมทั้งเมื่อวานด้วย
ผู้คนที่ฉันไม่ได้พบเจอ และสนทนาตัวต่อตัวด้วยมานาน
ทั้งต่าย...อีกหนึ่งผู้กล้าที่จะถอดถอนตัวเองออกจากระบบสู่ความไม่รู้และความไม่แน่นอน
ทั้งพี่เอ...หนึ่งในผู้ร่วมการเดินทางอันไร้จุดหมายที่ปางไฮเมื่อไม่นาน
หรือพี่ฉัตร...ที่กว่าเราจะได้ทำความรู้จักกันก็ตอนเดินออกจากงานแล้ว
ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมฉันถึงโทรหาใหม่ในวันนี้
จริงๆจะตรงกลับบ้านเลยก็ได้ ข้ออ้างก็มี คือ งานต้องทำ
แต่ทันทีที่ใหม่รับสายและเอ่ยว่า "จะมาไหม?"
ทั้งๆที่ฉันไม่ได้คิดไว้ว่าจะไปซะหน่อย... เธอเป็นคนส่งสารให้ฉันอีกแล้ว
ความรู้สึกดีๆที่ได้พบเพื่อนผู้ใหญ่บางท่าน ได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆบางคน
ได้ออกเดินทางไปพบกับความวุ่นวายท่ามกลางเมืองใหญ่
บางคราที่เราอาจพบเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันนานท่ามกลางฝูงชน
เช่นกัน ภาพลิขิตโชคชะตาที่อาจนำพาชีวิตนี้ไป ก็อาจมองเห็นได้...แม้รางๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น